ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าหรือ Vapecart ได้กลายเป็นทางเลือกที่เข้ามาแทนบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว ตั้งแต่เริ่มต้นในขั้นตอนแรก บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการโฆษณาให้เป็นตัวช่วยที่ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นและเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เสี่ยงต่อสุขภาพของร่างกาย แต่ในสังคมปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกแรกสำหรับวัยรุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อแฟชั่นหรือสุขภาพที่ดีกว่าบุหรี่ทั่วไป วัยรุ่นในปัจจุบันมักจะมีความชอบในการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากง่ายต่อการพกพาและมีรูปแบบกลิ่นที่หลากหลาย นอกจากนี้ควันก็ไม่หนาและไม่เสี่ยงต่อผู้อื่นอีกด้วย

Vapecart คือบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ในการสูบกัญชา โดยมักจะมีรูปแบบเดียวกับบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป แต่แทนการใส่น้ำยาหล่อลื่นเทียบเท่ากันในบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป ใน Vapecart จะใช้น้ำยาหรือน้ำมันที่มีสารสกัดจากกัญชาแทน การใช้ Vapecart เพื่อสูบกัญชาถือเป็นวิธีที่สะดวกและลดอันตรายมากกว่าการสูบกัญชาในรูปแบบอื่น เนื่องจากมีการลดควันและบุหรี่ที่เผาไหม้ออกไปจากกระบอกพร้อมกัน

การใช้ Vapecart มักจะเรียกว่า “vaping” หรือ “vaporizing” ซึ่งเป็นการสูบกัญชาโดยการอัดสารสกัดจากกัญชาในรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้ไฟเพลิงเช่นการเผาหรือการเทียบเท่ากับบุหรี่ที่ใช้กระบอกแบบแก๊สและหล่อลื่น การ vaping บุหรี่กัญชาไฟฟ้าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดควันและอันตรายที่เกิดขึ้นจากการสูบกัญชาแบบอื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีความสะดวกสบายและมีความพึงพอใจในการใช้งานเช่นเดียวกัน

Vapecart บุหรี่ไฟฟ้า กัญชาไฟฟ้า เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นคนสร้างขึ้นมา ?

การประดิษฐ์บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่กัญชาไฟฟ้าเกิดขึ้นเพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่แบบธรรมดาที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่มีความเชื่อผิด ๆ ที่ว่ามันปลอดภัยและอันตรายน้อยกกว่า การวิจัยทั่วโลกได้รายงานว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษและอันตรายมากกว่าบุหรี่ธรรมดา องค์กรอนามัยโลกได้ประกาศว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่เหมาะสำหรับการเลิกบุหรี่ การเลิกบุหรี่โดยใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีอื่น ๆ และอาจทำให้ผู้ใช้ติดเสพยาเสพติดทั้งสองอย่างได้อีกด้วย

บุหรี่ไฟฟ้า Vapecart และบุหรี่กัญชาไฟฟ้าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกในการเลิกสูบบุหรี่ธรรมดาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่มีความเชื่อผิดว่ามันปลอดภัยและน้อยกว่าอันตราย ผู้ใช้โดยทั่วไปมักหลงใหลในความเชื่อนี้ แต่ความจริงพบว่าแม้ผู้ประดิษฐ์เองก็ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้และยังคงติดเสพบุหรี่ทั้งสองประเภท การวิจัยในอังกฤษรายงานว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ปลอดภัยเท่าไร แต่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของบุหรี่ธรรมดา แต่อินเดียประสบปัญหากับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการเพิ่มจำนวนนักสูบหน้าใหม่เข้ามา การสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ยังคงติดสารนิโคติน รายงานจากทั่วโลกยังแสดงให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษและอันตรายมากกว่าบุหรี่แบบธรรมดา เช่น ไอความร้อนที่สูงมากอาจทำลายเซลล์เยื่อบุทางหายใจ

Vapecart คืออะไร มีกลไกในการทำงานอย่างไร ?

Vapecart หรือบุหรี่ไฟฟ้ากัญชาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการสูบกัญชาแบบไฟฟ้า มันทำงานโดยการอบไหม้สารสำคัญในกัญชา ที่มีความสำคัญอยู่ในดอกของพืช ทั้งสาร Cannabinoids, Terpenes, Flavonoids, และ Trichomes ผ่านการใช้ความร้อนจากเทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างละเอียด โดยมักใช้แบตเตอรี่ในการจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์

หลักการทำงานของ Vapecart คือเมื่อเริ่มสูบ แบตเตอรี่จะเปิดส่วนที่สร้างความร้อนเพื่ออบสารในกัญชาที่อยู่ในตัวอุปกรณ์ ทำให้สารสำคัญที่ต้องการเปิดสารสำคัญนั้นเป็นไอ ซึ่งผู้ใช้จะดูดไอนั้นเข้าไปในปอด และสารสำคัญก็จะถูกดูดซึมลงสู่กระแสเลือดผ่านเยื่อหุ้มปอด

วิธีการทำงานนี้มักจะเรียกว่า “vaping” หรือ “vaporization” ซึ่งมันเป็นวิธีที่เรียบง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการสูบบุหรี่ที่ต้องการจุดไฟให้กับยาสูบ เครื่อง Vapecart ยังมักมีการควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ไอที่สร้างขึ้นมีความร้อนที่เหมาะสมสำหรับการดูดเข้าไปในร่างกายและเพื่อป้องกันการเผาผลาญสารสำคัญที่อาจเกิดขึ้นได้จากความร้อนที่สูงเกินไป โดยมักมีระบบควบคุมอัตโนมัติในบางรุ่น เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ลักษณะพอด (POD ) ของบุหรี่ไฟฟ้า หรือ Podกัญชา เป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กลไกไฟฟ้า Atomizer ที่ทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วย สารเคมีต่าง ๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่  ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน ( Atomizer ) และน้ำยา และถ้ากล่าวถึงเฉพาะส่วนของน้ำยา ที่จะถูกทำให้เป็นไอ

การสูบบุหรี่ ไม่ว่าวิธีใดๆ ทั้งบุหรี่มวน บุหรี่ไฟฟ้า ซิกก้าหรือบารากู่ ผู้เสพก็ได้รับสารนิโคตินเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีสารพิษอื่นๆกว่าหลักพันชนิด และสารก่อมะเร็งอีก 70 ชนิด เกิดขึ้นในกระบวนการเสพ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพนิโคติน ด้วยวิธีการใด สารต่างๆที่เกิดขึ้น ก็ทำให้หลอดเลือดตีบแข็งทั่วร่างกาย ตลอดจนถึงปลายเท้า ที่สำคัญคือ หลอดเลือดหัวใจตีบแข็ง เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย หลอดเลือดสมองเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต อีกทั้งส่งผลให้เยื่อบุหลอดลมและถุงลม เกิดการอักเสบเรื้อรัง เกิดโรคทางเดินหายใจอุดกั้น ถุงลมโป่งพอง เกิดมะเร็งปอดและในอวัยวะอื่นๆอีกมากถึง 14 อวัยวะ ที่สารในบุหรี่มีส่วนทำให้เกิดโรคเบาหวานเร็วกว่าปกติ และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและรวดเร็ว มากกว่าปกติ

ผลกระทบด้านของสุขภาพของ บุหรี่ไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์

บุหรี่ไฟฟ้ามีผลกระทบต่อสุขภาพของร่างกายมนุษย์ได้มากมาย แม้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพเมื่อเทียบกับบุหรี่ที่มีเสียงลำเพลินอย่างมาก แต่ยังคงมีผลกระทบที่ควรระวังต่อสุขภาพได้ดังนี้:

  1. ควัน: บุหรี่ไฟฟ้ามีควันเช่นเดียวกับบุหรี่ทั่วไป แม้ว่ามีปริมาณน้อยกว่า แต่ควันยังมีสารพิษที่อาจทำให้เกิดภาวะอักเสบในทางเดินหายใจ และมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจรวมถึงการเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด หรือวัณโรค
  2. สารพิษ: ควันที่สร้างจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจยังมีสารพิษเข้มข้นอื่นๆ เช่น นิโคติน ซึ่งมีผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท
  3. การเสพติด: บางบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีการเจริญเติบโตในเขาด้วยสารที่ทำให้เกิดการติดยา แม้ว่าปริมาณจะน้อยกว่าในบุหรี่ที่มีเสียงลำเพลิน แต่ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่
  4. ผลกระทบต่อหัวใจและหลอดเลือด: การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจวาย หรืออัมพาต
  5. การสร้างสารเคมีอันตราย: การอบสารสำคัญในบุหรี่ไฟฟ้าอาจสร้างสารเคมีที่เป็นอันตรายเมื่อถูกตีความร้อน เช่น การสร้างโพลีเคมิกออร์กานิกดีซ์ (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons: PAHs) ซึ่งเป็นสารที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของมะเร็ง

เพราะเหตุนี้ การใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงต้องระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงให้เป็นไปได้ และหากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องใช้ความรอบคอบและอย่างมีสติในการใช้งาน